พื้นที่: 70,715 ตร.กม.
ประชากร: 9.291 ล้าน (พ.ศ. 2558)
จังหวัด: 1.จังหวัดกระบี่
2.จังหวัดชุมพร
3.จังหวัดตรัง
4.จังหวัดนครศรีธรรมราช
5.จังหวัดนราธิวาส
6.จังหวัดปัตตานี
7.จังหวัดพังงา
8.จังหวัดพัทลุง
9.จังหวัดภูเก็ต
10.จังหวัดระนอง
11.จังหวัดสตูล
12.จังหวัดสงขลา
13.จังหวัดสุราษฎร์ธานี
14.จังหวัดยะลา
3.จังหวัดตรัง
4.จังหวัดนครศรีธรรมราช
5.จังหวัดนราธิวาส
6.จังหวัดปัตตานี
7.จังหวัดพังงา
8.จังหวัดพัทลุง
9.จังหวัดภูเก็ต
10.จังหวัดระนอง
11.จังหวัดสตูล
12.จังหวัดสงขลา
13.จังหวัดสุราษฎร์ธานี
14.จังหวัดยะลา
สถานที่ท่องเที่ยว
หาดป่าตอง
หาด การเที่ยวกลางคืน มวยไทย และมวยสากล
เกาะพะงัน
(632)
หาด สถานตากอากาศชายทะเล โยคะ และมวยไทย
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
(276)
การดำน้ำสกูบา ปลากระเบนแมนตา และเต่า
เกาะพีพีเล
(520)
ลากูน หาด ถ้ำ และหน้าผา
เกาะลันตา
(243)
หาด สถานตากอากาศชายทะเล และโรแมนซ์
หาดกะรน
(623)
หาดและการเที่ยวกลางคืน
อุทยานแห่งชาติเขาสก
(2,607)
ป่าฝนเก่าแก่ หน้าผา และสัตว์ป่า
ภูเก็ตแฟนตาซี
(5,249)
ธีมปาร์คที่มีการแสดงทางวัฒนธรรมและสัตว์
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง
(1,183)
สวนสาธารณะและคายัค
วัดถ้ำเสือ
(1,310)
เทวสถาน เสือโคร่ง ถ้ำ บ่อน้ำร้อน และช้าง
อ่าวนาง
(602)
หาดและสถานตากอากาศชายทะเล
หาดริ้น
(93)
หาดและสถานตากอากาศชายทะเล
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
(44)
การดำน้ำสกูบาและสวนสาธารณะ
เกาะไหง
(82)
สถานตากอากาศชายทะเลและหาด
เกาะไข่นอก
(149)
วัดไชยธาราราม
(1,937)
วัดพุทธที่มีจิตรกรรมฝาผนังและสวน
พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี
(3,425)
ศาสนาพุทธและช้าง
สระมรกต
(2,881)
บ่อน้ำร้อน ช้าง ป่า ทะเลสาบ และธรรมชาติ
หาดกมลา
(298)
หาด
Maya Bay
(6,087)
อ่าวอันโด่งดังที่โอบล้อมด้วยหน้าผา
หาดกะตะน้อย
(181)
หาดและสถานตากอากาศชายทะเล
Tup Island
(1,596)
หาด
ถนนบางลา
การเที่ยวกลางคืนและช้อปปิ้ง
หาดนพรัตน์ธารา
(1,378)
หาด
วัดปลายแหลม
(496)
วัดที่มีทะเลสาบและรูปปั้นชื่อดัง
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา
(532)
อุทยานทางทะเลที่มีสัตว์ป่าและชายหาด
เกาะ แตน
(37)
คายัคและพืดหินปะการัง
อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา
(154)
ป่าฝนสวยงามที่เป็นเขตอนุรักษ์สัตว์ป่า
เกาะปันหยี
(95)
การจับปลา
จุดชมวิวกะรน
(2,692)
หาด
เกาะรอกน้อย
(105)
Fisherman's Village Bophut
(2,091)
หาดและช้อปปิ้ง
Railay Beach
(3,275)
หาด
หาดกะตะ
(595)
หาด โต้คลื่น และการเที่ยวกลางคืน
เชี่ยวหลาน
(95)
ทะเลสาบ อ่างเก็บน้ำ สวนสาธารณะ และช้าง
เกาะเมียง
(32)
หาด
น้ำตกหน้าเมือง 1
(1,487)
น้ำตกเงียบสงบและเส้นทางเดินป่าเขียวชอุ่ม
อุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน
(175)
สวนสาธารณะ น้ำตก และหาด
ตลาดสดบันซ้านx
(3,640)
อาหารทะเล ตลาด และช้อปปิ้ง
จุดชมวิวเขารัง
(1,213)
เกาะแม่เกาะ
(59)
ทะเลสาบและคายัค
หน้าเมือง ซาฟารี ปาร์ค
(850)
สวนช้างที่มีการนั่งรถ ATV และการเดินป่า
เขื่อนรัชชประภา
(552)
เขื่อนยาว 2,500 ฟุต สร้างในปี 1987
อุทยานแห่งชาติ เขาหลัก-ลำรู่
(545)
อุทยานเขตร้อนที่มีชายหาดและสัตว์ป่า
เกาะห้า
(9)
Ko Klang
(6)
อาหารทะเล
เกาะมุก
(86)
สถานตากอากาศชายทะเล ถ้ำ และหาด
เกาะเฮ
(54)
หาด
พระใหญ่
(819)
พระพุทธรูปสีทองขนาดใหญ่
แหลมพรหมเทพ
(1,960)
ประภาคารและหาด
ที่มา:https://www.google.co.th/destination/map/topsights?q=%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B9%83%E0%B8%95%E0%B9%89&rlz=1C1NHXL_thTH812TH813&site=search&output=search&dest_mid=/m/052s9p&sa=X&ved=0ahUKEwiPnMiv59rfAhVPWX0KHa29DaoQ6tEBCDEoBDAA#dest_mid=/m/052s9p&trifp=skpm%3D/m/044td5%26t%3De
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เภพาเที่ยว
จุดชมวิวแห่งใหม่ของจังหวัดภูเก็ต มองเห็นทะเลอันดามันเกือบ 360 องศา สำหรับใครที่อยากเดินทางมายังจุดชมวิวแห่งนี้ อาจต้องเดินทางมาตั้งแต่ช่วงบ่าย ๆ เพราะหากมาหลังพระอาทิตย์ตกจะมืดมาก และเดินลำบาก โดยเริ่มต้นเส้นทางผ่านหาดในหานมาทางอ่าวเสน หรือจะเริ่มต้นที่อ่าวเสน หรือเดินขึ้นไปทางกำแพงเล็ก ๆ ก่อนถึงบ้านกระทิงรีสอร์ทก็ได้ แนะนำให้ใส่รองเท้าผ้าใบ เพราะคุณจะต้องเดินผ่านโขดหิน ซึ่งอาจเผลอลื่นและเป็นอันตรายได้ ตลอดทางคุณจะมองเห็นวิว ที่ทำให้คุณต้องร้องว้าว ! ประมาณ 45 นาที ก็จะถึงแหลมกระทิง และอย่างที่บอกไปแล้วว่าทางกลับค่อนข้างมืด เราจึงไม่แนะนำให้อยู่ดูพระอาทิตย์ตกดิน
2. บ้านคีรีวง นครศรีธรรมราช
ตั้งอยู่ที่ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา นักท่องเที่ยวคนไทยที่ได้มาเที่ยวที่บ้านคีรีวง มักจะประทับใจกับวิถีชีวิตสังคมของชาวบ้านที่นั่น ซึ่งเป็นสังคมแบบเครือญาติ ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน การเป็นอยู่ที่เรียบง่ายและเงียบสงบ แน่นอนว่าเราอาจจะได้พบภาพแบบนี้ได้ไม่บ่อยนักเมื่ออยู่ในเมืองใหญ่ ชาวบ้านที่นั่นส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวนผลไม้ เช่น มังคุด เงาะ ทุเรียน เป็นต้น จุดเด่นของบ้านคีรีวงคือทัศนียภาพที่สวยงามของธรรมชาติ ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขา และสายน้ำ แถมยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมทำมากมาย เช่น การพักในที่พักแบบโฮมสเตย์ การชิมอาหารพื้นเมือง เป็นต้น ซึ่งจะทำให้คุณได้ซึมซับภาพความสวยงามของบ้านคีรีวงได้อย่างไม่รู้ลืม
3. เกาะกำตก จังหวัดระนอง
3. เกาะกำตก จังหวัดระนอง
เกาะกำตก อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแหลมสน เป็นอีกหนึ่งเกาะสวยของไทย ที่สวย เงียบสงบและมีเสน่ห์เป็นของตัวเอง ไฮไลท์ที่ต้องไปเยือนคือ "อ่าวเขาควาย" แห่งเกาะกำตก ซึ่งเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของหมู่เกาะกำ เพราะเป็นจุดที่ทางอุทยานเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามารับประทานอาหารและเล่นน้ำกันที่เกาะนี้ ที่นี่ร่มรื่นด้วยแนวต้นสน หาดทรายสวยงามขาวเนียน ทรายละเอียด น้ำทะเลสวยใส เหมาะแก่การลงแหวกว่ายเล่นน้ำเป็นอย่างยิ่ง
4. จุดชมวิวเสม็ดนางชี พังงา
ตั้งอยู่ที่บ้านเสม็ดนางชี หมู่ 2 ตำบลคลองเคียน อำเภอตะกั่วทุ่ง ที่นี่ถือได้ว่าเป็นจุดชมวิวแห่งใหม่ของจังหวัดพังงา ว่ากันว่าบรรยากาศวิวระดับหลักล้านเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวนิยมที่จะขึ้นไปยังจุดชมวิวเสม็ดนางชีในช่วงบ่ายก่อนพระอาทิตย์ตกดิน แล้วนอนกางเต็นท์พักค้างแรม 1 คืน ก่อนจะลงมาในช่วงสายของอีกวัน เพราะบรรยากาศของที่นี่จะสวยงามแตกต่างกันออกไป ยามเย็นจะได้ชมภูเขาหินปูนกลางทะเลเป็นสีเหลืองทอง เพราะพระอาทิตย์จะตกทางด้านหลัง แล้วสาดส่องแสงมาที่ภูเขาและทะเลในอ่าวพังงา ยามค่ำคืนจะสามารถมองเห็นดาวเต็มท้องฟ้า กับพระจันทร์ดวงกลมโตสีเหลืองทองอร่าม ราวกับมานอนพักค้างคืนอยู่อีกโลก ส่วนยามเช้าก็จะมีพระอาทิตย์โผล่มาทักทายกันแบบงาม ๆ
5. เกาะเขาใหญ่ จังหวัดสตูล
ภาพจาก kunanon / Shutterstock.com
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทะเลทางฝั่งอันดามัน และที่เที่ยวสตูลห้ามพลาด เป็นเกาะหินปูนกลางทะเล อยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล ห่างจากชายฝั่งบริเวณที่ทำการอุทยานประมาณ 10 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากท่าเรือปากบารา เพียงแค่ประมาณ 3-5 กิโลเมตรเท่านั้น บนเกาะเขาใหญ่จะมีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนเสียส่วนใหญ่ มีชายหาดบางส่วน อ่าวที่มีชื่อเสียงคือ "นะปุลา" เป็นชายหาดที่เงียบสงบสวยงาม นอกจากนี้เวลาที่น้ำลดก็จะสามารถลอดช่องหินเข้าไปชมความสวยงามของ "ปราสาทหินพันยอด" สิ่งอัศจรรย์สุดอันซีนที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นจากการกัดเซาะหินของน้ำฝน จนกลายเป็นแท่งหินแหลมรูปร่างสวยงามแปลกตาคล้ายกับปราสาทในเทพนิยาย ชาวบ้านจึงเรียกกันว่าปราสาทหินพันยอด อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ธรณีวิทยา มีการพบฟอสซิลอายุมากกว่า 480 ล้านปี
6. เมืองเก่าสงขลา
ภาพจาก pracha hariraksapita / Shutterstock.com
ย่านเมืองเก่าสงขลา ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง มีถนนสายสำคัญน่าเดินเที่ยว 3 สาย คือถนนนครนอก ถนนนครใน และถนนนางงาม ซึ่งยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมเอาไว้ นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญของเมืองให้ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์กันด้วย ทั้งศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ซึ่งตั้งอยู่บนถนนนางงาม, โรงสีหับ โห้ หิ้น ที่ทาสีแดงแปร๊ด ตั้งอยู่บนถนนนครนอก ริมทะเลสาบสงขลา เป็นต้น แต่สิ่งที่ทำให้เมืองเก่าแห่งนี้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้งก็คืองานสตรีทอาร์ต เป็นภาพวาดบนกำแพง จำลองบรรยากาศของร้านน้ำชาฟุเจา ซึ่งเป็นร้านน้ำชาเก่าแก่ในอดีตที่ตั้งอยู่ในอาคารนั้น นอกจากนี้ก็ยังมีภาพวาดแนวเดียวกันอยู่บริเวณอื่น ๆ ของเมืองด้วย รวมถึงมีของกินอร่อย ๆ มากมาย ดูเพิ่มเติมได้ที่ เที่ยวถนนนางงาม พร้อมแวะชิม 9 ร้านอร่อยเมืองสงขลา
7. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ตั้งอยู่ในเขตอำเภอสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่นี่คือดินแดนแห่งหมู่เกาะมากมาย ซึ่งมีทั้งหมดมากกว่า 40 เกาะ แต่ละเกาะมีลักษณะเป็นภูเขาหินปูน บางเกาะมีหาดทรายขาวสะอาด สวยงาม บางเกาะมีเฉพาะเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้ได้เดินขึ้นไปชมทัศนียภาพโดยรอบของหมู่เกาะแห่งนี้ โดยเกาะที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวจะอยู่ที่เกาะวัวตาหลับ ด้วยเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง และเป็นที่ตั้งของจุดชมวิวที่สวยที่สุด นั่นก็คือจุดชมวิววัวตาหลับ นอกจากนี้ยังมีเกาะอื่น ๆ ให้ได้เที่ยวอีกด้วย อาทิ เกาะแม่เกาะ เกาะสามเส้า เกาะท้ายเพลา เป็นต้น
8. เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เขื่อนรัชชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน ตั้งอยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ด้วยเต็มไปด้วยธรรมชาติของป่าเขาและสายน้ำที่งดงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่ดีมาก ๆ สำหรับคนที่ชอบความเงียบสงบ อีกทั้งยังมีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติทั้งน้ำตก หน้าผา ถ้ำ และทิวทัศน์เทือกเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านเหนือผืนน้ำอ่างเก็บน้ำ จนได้รับฉายาว่ากุ้ยหลินเมืองไทย
9. เกาะปันหยี
9. เกาะปันหยี
เกาะปันหยี ตั้งอยู่ที่บ้านท่าด่าน ตำบลเกาะปันหยี อำเภอเมือง จังหวัดพังงา เป็นหมู่บ้านของชาวมุสลิมกลางน้ำ ซึ่งมีมายาวนานมากกว่า 200 ปี ชาวบ้านยังคงใช้วิถีชีวิตแบบชาวเลแท้ ๆ ภายในเกาะมีบ้านเรือนของชาวบ้าน ที่สร้างขึ้นจากวัสดุธรรมชาติ มีมัสยิด รวมทั้งสนามฟุตบอลขนาดเล็กของเด็ก ๆ ในหมู่บ้าน นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมวิถีชีวิตอันเรียบง่ายแล้ว ยังจะได้ลิ้มลองอาหารทะเลสดใหม่ อาหารพื้นเมือง พร้อมทั้งเลือกซื้อสินค้าแฮนด์เมดของชาวบ้านอีกด้วย
10. ถ้ำภูผาเพชร จังหวัดสตูล
10. ถ้ำภูผาเพชร จังหวัดสตูล
ถ้ำที่มีขนาดใหญ่ติดอันดับ 4 ของโลก ตั้งอยู่ในตำบลปาล์มพัฒนา อำเภอมะนัง ภายในถ้ำจะพบห้องโถงขนาดกว้าง เพดานถ้ำสูง ๆ ที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยที่ยังคงมีหยดน้ำเกาะตัวอยู่ และเมื่อกระทบกับแสงไฟก็จะส่องเป็นประกายอย่างสวยงาม พร้อมทั้งมีการแบ่งชื่อแต่ละห้องตามลักษณะของธรณีสัณฐานที่พบออกเป็น 20 ห้อง เช่น "ห้องม่านเพชร" มีลักษณะคล้ายผ้าม่านแขวนอยู่, ห้องพญานาค มีหินงอกคล้ายงูใหญ่หรือพญานาค และถ้าสังเกตจากประเภทของหินงอก (Stalagmite) ก็จะมีชื่อต่าง ๆ ตามรูปทรงที่พบเห็นมากถึง 31 แห่ง
ส่วนประเภทหินย้อย (Stalactite) ก็มีทั้งหมด 4 แห่ง และสุดท้ายคือประเภทเสาหิน (Column in Cavern) ซึ่งเป็นส่วนของหินงอกและหินย้อยที่มาบรรจบกันแล้วมองดูคล้ายเสาค้ำยันเพดาน ถ้ำกว่า 14 แห่ง นอกจากนี้ยังมีประเภทเสาหินที่มีลักษณะต่าง ๆ กัน เช่น เสาเพชร หรือเสาหินย้อย หรือเสาค้ำสุริยัน รวมทั้งยังมีบ่อขั้นบันได ที่มีลักษณะเหมือนชายน้ำตกหินปูนที่เป็นชั้น ๆ เหมือนขั้นบันไดอีกด้วย ทั้งนี้สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเดินทางไปเยือนที่ถ้ำภูผาเพชรควรเตรียมตัวก่อนเดินทางให้พร้อม ทั้งไฟฉายติดตัวไปเพื่อส่องดูความงามภายในถ้ำ และสวมใส่รองเท้าที่เดินสบาย
11. เกาะกระดาน
เกาะกระดาน เป็นเกาะที่สวยที่สุดของทะเลตรัง อยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะมุกและเกาะลิบง มีเนื้อที่ 600 ไร่ ซึ่ง 5 ใน 6 ส่วนของเกาะนี้อยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ที่เหลือเป็นของเอกชน เกาะกระดาน มีชายหาดที่มีทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใสจนมองเห็นแนวปะการัง ซึ่งเป็นปะการังน้ำตื้น ตลอดจนฝูงปลาหลากสีหลายพันธุ์ สำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยวเกาะกระดาน สามารถทำได้ทั้งเหมาเรือไปเอง หรือไปกับทัวร์แบบ One Day Trip (4 เกาะ ได้แก่ เกาะเชือก เกาะม้า ถ้ำมรกต (เกาะมุก) และเกาะกระดาน) สามารถติดต่อสอบถามได้ที่บริเวณท่าเรือควนตุ้งกู ท่าเรือปากเมง หรือท่าเรือเจ้าไหม
12. คลองสังเน่ห์ จังหวัดพังงา
ตั้งอยู่ที่ตำบลบางนายสี อำเภอตะกั่วป่า มีลักษณะเป็นคลองสายสั้น ๆ ล้อมรอบด้วยผืนป่าเล็ก ๆ ที่สมบูรณ์พร้อมด้วยธรรมชาติ ไฮไลท์อยู่ที่นักท่องเที่ยวจะได้ล่องเรือชมต้นไทรโบราณ อายุร่วมร้อยปี ที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงา รวมถึงได้ชมงูชนิดต่าง ๆ เช่น งูเขียว งูปล้องทอง และงูเหลือม เป็นต้น รวมถึงสัตว์สงวนหายากต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสิ่งสะท้อนความสมบูรณ์ทางธรรมชาติของจังหวัดพังงาได้เป็นอย่างดี จนใคร ๆ ต่างพากันเรียกคลองสายนี้ว่า Little Amazon
13. เกาะเหลาลาดิง จังหวัดกระบี่
เกาะเหลาลาดิง ตั้งอยู่ในท้องทะเลอันดามัน เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ใช้เวลาเดินทางจากฝั่งอ่าวนางประมาณ 30 นาที และจากเกาะห้องประมาณ 10 นาที เป็นเกาะที่มีขนาดไม่ใหญ่ มีชายหาดเล็ก ๆ มีลักษณะเป็นเวิ้งอ่าวหลบอยู่ด้านในของภูเขาหินปูนสองฝั่ง ที่นี่จึงเงียบสงบ มีบรรยากาศส่วนตัวสุด ๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากมานอนริมทะเล พักผ่อนกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ยิ่งไปกว่านั้นหาดทรายยังขาวสะอาด เนื้อทรายเนียนละเอียด บริเวณชายหาดจะมีร่มไม้ให้นักท่องเที่ยวได้มานอนเล่นพักผ่อน น้ำทะเลใส เป็นสีเขียวมรกตงามจับตา มีแนวปะการังให้ได้ดำน้ำตื้นกันอย่างสนุกสนาน ที่นี่จึงได้สมญานามว่า เกาะพาราไดซ์ (Koh Paradise)
14. ล่องแก่งหนานมดแดง จังหวัดพัทลุง
ล่องแก่งหนานมดแดง ตั้งอยู่ที่ตำบลลานข่อย อำเภอป่าพะยอม การล่องแก่งที่นี่ไม่ได้น่ากลัวเหมือนที่อื่น ๆ เพราะไม่มีน้ำป่าไหลหลากแน่นอน ด้วยน้ำในลำห้วยน้ำใสซึ่งเป็นห้วยที่เราจะล่องแก่งกันนั้น ไหลมาจากอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส ซึ่งสามารถควบคุมระดับน้ำได้ อีกทั้งระดับการล่องแก่งที่นี่ยังอยู่ที่ระดับ 2-3 ไม่อันตรายมาก และยังมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกพร้อมทั้งดูแลอย่างใกล้ชิด จึงสามารถเล่นได้ทั้งครอบครัว ตั้งแต่อายุ 5 ขวบขึ้นไปก็สามารถเล่นได้
15. สันหลังมังกรตันหยงโป จังหวัดสตูล
สันหลังมังกรตันหยงโป ตั้งอยู่บริเวณตำบลตันหยงโป อำเภอเมือง จังหวัดสตูล มีลักษณะเป็นสันทรายยาวประมาณ 4 กิโลเมตร ถ้าช่วงที่น้ำลดเต็มที่ เราก็จะเห็นว่าสันทรายแห่งนี้มีลักษณะเป็นโค้งคล้ายเสี้ยวพระจันทร์ บริเวณสันทรายจะเป็นเปลือกหอยเล็ก ๆ สีน้ำตาลอ่อน เมื่อสะท้อนกับแสงแดดจึงกลายเป็นสีเหลืองทองสวยงาม ทั้งนี้การเที่ยวชมสันหลังมังกร สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี โดยในแต่ละวันจะมีช่วงเวลาน้ำขึ้น-ลง ที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นควรที่จะเช็กข้อมูลการท่องเที่ยวสันหลังมังกรกับผู้ประกอบการนำเที่ยวก่อนเดินทาง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลท่าข้าม โทรศัพท์ 0 7528 8593 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสตูล โทรศัพท์ 0 7521 1058
16. ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด สุราษฎร์ธานี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด
ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 บ้านน้ำราด ตำบลบ้านทำเนียบ อำเภอคีรีรัฐนิคม เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์และสวยงามมาก โดยมี "ตาน้ำ" เป็นหัวใจหลักของป่าต้นน้ำแห่งนี้ น้ำที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดินนั้นไหลลอดใต้ภูเขาผ่านออกมายังจุดที่เรียกว่าตาน้ำ ซึ่งเป็นน้ำที่ใสบริสุทธิ์และชาวบ้านก็เชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีลักษณะเป็นบ่อน้ำจืดสีฟ้าอมเขียวใสราวกับกระจก ลึกประมาณ 1 เมตร พื้นของบ่อน้ำจะเป็นพื้นทรายตะกอนหินปูน จึงทำให้น้ำไม่ขุ่น มีความใสอยู่ตลอด
น้ำที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดินก็จะไหลลงไปยังคลองมะเลาะ ไปสู่น้ำตกธารทอง แล้วจึงไหลไปยังพื้นที่ของหมู่บ้านบ้านน้ำราดและบ้านย่านยาว และเมื่อไม่นานมานี้ทางชุมชนบ้านน้ำราดได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเที่ยวชมและสามารถลงเล่นน้ำได้ โดยที่ทางชุมชนได้ทำแนวกั้นแบ่งบ่อน้ำไว้เป็น 2 ส่วน คือส่วนที่ห้ามลงเล่น เพราะเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านจะนำน้ำส่วนนี้ไปใช้ในการดื่มกินและประกอบพิธีกรรมสำคัญต่าง ๆ และส่วนที่ชุมชนกั้นขึ้นมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้
17. เกาะกุลา จังหวัดชุมพร
น้ำที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดินก็จะไหลลงไปยังคลองมะเลาะ ไปสู่น้ำตกธารทอง แล้วจึงไหลไปยังพื้นที่ของหมู่บ้านบ้านน้ำราดและบ้านย่านยาว และเมื่อไม่นานมานี้ทางชุมชนบ้านน้ำราดได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเที่ยวชมและสามารถลงเล่นน้ำได้ โดยที่ทางชุมชนได้ทำแนวกั้นแบ่งบ่อน้ำไว้เป็น 2 ส่วน คือส่วนที่ห้ามลงเล่น เพราะเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านจะนำน้ำส่วนนี้ไปใช้ในการดื่มกินและประกอบพิธีกรรมสำคัญต่าง ๆ และส่วนที่ชุมชนกั้นขึ้นมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้
17. เกาะกุลา จังหวัดชุมพร
เกาะกุลา เป็นเกาะเล็ก ๆ ในตำบลด่านสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพร อยู่ในการดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ใช้เวลาเดินทางจากที่ทำการอุทยานประมาณ 20 นาที เท่านั้น ปัจจุบันที่นี่ยังเป็นสถานที่อนุบาลเต่ากระด้วย ความโดดเด่นของเกาะกุลาก็คือความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติทั้งใต้ท้องทะเลและบนเกาะ โดยบริเวณรอบ ๆ เกาะจะเต็มไปด้วยแนวปะการังที่สวยงาม พร้อมทั้งสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด ซึ่งน้ำทะเลในบริเวณนี้จะเป็นสีเขียวใสมรกต สามารถมองเห็นไปถึงใต้ท้องทะเลที่เต็มไปด้วยปะการังได้เลยทีเดียว
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถที่จะมาค้างคืนได้บนเกาะกุลา ซึ่งมีทั้งบ้านพักเป็นหลังและลานกางเต็นท์ไว้รองรับ โดยที่นี่เปิดให้เข้าเที่ยวชมตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่เหมาะสมต่อการท่องเที่ยวมากที่สุดจะอยู่ในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม เพราะน้ำทะเลจะใสแจ๋วและท้องฟ้าแจ่มใส เหมาะแก่การมาดำน้ำชมปะการัง และพักผ่อนกับท้องทะเลสุดเงียบสงบ
18. ตลาดใต้โหนด พัทลุง
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถที่จะมาค้างคืนได้บนเกาะกุลา ซึ่งมีทั้งบ้านพักเป็นหลังและลานกางเต็นท์ไว้รองรับ โดยที่นี่เปิดให้เข้าเที่ยวชมตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่เหมาะสมต่อการท่องเที่ยวมากที่สุดจะอยู่ในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม เพราะน้ำทะเลจะใสแจ๋วและท้องฟ้าแจ่มใส เหมาะแก่การมาดำน้ำชมปะการัง และพักผ่อนกับท้องทะเลสุดเงียบสงบ
18. ตลาดใต้โหนด พัทลุง
ตลาดใต้โหนด หรือที่คนใต้เรียกกันว่า "หลาดใต้โหนด" ตลาดพื้นบ้านสุดฮิปแห่งจังหวัดพัทลุง ตั้งอยู่ที่บ้านจันนา ตำบลดอนทราย อำเภอควนขนุน เป็นตลาดนัดพื้นบ้านสีเขียวสุดเก๋ไก๋ ที่สร้างรายได้ให้กับชุมชนแห่งนี้มามากกว่า 2 ปีแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลขทางการค้าให้ชาวบ้านเท่านั้น แต่ยังสร้างความสุขและมิตรภาพให้กลับคืนสู่ท้องถิ่นอย่างยั่งยืนอีกด้วย โดยชาวบ้านในพื้นที่นำสินค้าปลอดสารพิษ พร้อมทั้งอาหารพื้นเมืองมาจำหน่าย ทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น.
19. คลองปากประ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
19. คลองปากประ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
จุดถ่ายภาพยอดนิยมของช่างภาพทั้งหลาย (ต้องตื่นมาจองที่ตั้งขาตั้งกล้องกันตั้งแต่ตีห้า 555) เมื่อแสงแรกของวันเริ่มเปล่งประกาย เสียงของเรือหางยาวของชาวบ้านค่อย ๆ ดังมาจากทางด้านหลัง ไล่มาเรื่อยจนพ้นสะพานก่อนที่จะเข้าสู่ทะเลน้อยอันกว้างใหญ่ไพศาล เรือบางลำไปจอดอยู่กลางน้ำตรงจุดที่ยอ (เครื่องมือจับปลาพื้นบ้าน) ของตัวเองตั้งอยู่ แล้วเริ่มทำงานอย่างขะมักเขม้น ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ มือเรายังคงกดชัตเตอร์ไปเรื่อย ๆ แต่สายตาได้หลุดออกมาจากหลังกล้องนานแล้ว พร้อมกับบันทึกภาพแห่งความสวยงามนี้ลงสู่สมองอันน้อยนิดอย่างช้า ๆ
20. ล่องแพบ้านวังหอน จังหวัดนครศรีธรรมราช
ตั้งอยู่ที่อำเภอชะอวด เป็นชุมชนเก่าที่ยังคงดำเนินวิถีชีวิตอย่างเรียบง่าย ที่นี่นักท่องเที่ยวจะสนุกไปกับแหล่งท่องเที่ยวภายในชุมชนอย่างกิจกรรมล่องแพไม้ไผ่ ซึ่งเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่นักท่องเที่ยวสามารถกระโดดน้ำ เล่นน้ำ และล่องแพได้แบบชิล ๆ ท่ามกลางต้นไม้ที่ร่มรื่นตลอดสองข้างทาง และฟินไปกับสายน้ำเย็น ๆ ลำธารใส ๆ ของคลองวังหอน ซึ่งเป็นคลองธรรมชาติที่เกิดจากป่าต้นน้ำของเทือกเขาบรรทัด ไหลลงสู่แม่น้ำปากพนัง แถมยังมีที่พักแบบเต็นท์กระโจมและกระท่อมไม้ไผ่ ให้ได้นอนท่ามกลางป่า ถ้าคุณอยากพักผ่อนสัมผัสธรรมชาติ ที่นี่เหมาะกับคุณแน่นอน
ที่มา:https://travel.kapook.com/view173308.html
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น